简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:บิทคอยน์พุ่งทะลุแนว 55,000 ดอลลาร์ จ่อทุบสถิติสูงสุดที่เคยทำในเดือนก.พ.
บิทคอยน์พุ่งขึ้นทะลุแนว 55,000 ดอลลาร์ในช่วงเช้าวันนี้ ขณะที่นักวิเคราะห์หลายรายคาดการณ์ว่า บิทคอยน์มีแนวโน้มพุ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากบริษัทรายใหญ่หลายแห่งให้ความสนใจเข้าลงทุนในบิทคอยน์
เมื่อเวลา 09.23 น.ตามเวลาฮ่องกงในวันนี้ ราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้น 2.8% แตะที่ 55,600 ดอลลาร์
นายคริส เวสตัน นักวิเคราะห์จากบริษัทเปปเปอร์สโตน กรุ๊ป กล่าวว่า ราคาบิทคอยน์มีแนวโน้มทุบสถิติสูงสุดที่เคยทำไว้ในเดือนก.พ.ที่ระดับ 58,350 ดอลลาร์
ขณะที่นายริช รอสส์ นักวิเคราะห์จากบริษัทเอเวอร์คอร์ ไอเอสไอ คาดการณ์ว่า บิทคอยน์ยังคงอยู่ในสถานะที่แข็งแกร่งมาก และมีแนวโน้มพุ่งขึ้นแตะระดับ 75,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์มองว่า การที่บริษัทหลายแห่งหันมาให้ความสนใจลงทุนในบิทคอยน์ รวมทั้งการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐจะเป็นปัจจัยหนุนราคาบิทคอยน์พุ่งขึ้นอีก โดยเทสลา, มาสเตอร์การ์ด, แบงก์ ออฟ นิวยอร์ก เมลลอน คอร์ป, โกลด์แมน แซคส์ และล่าสุดบริษัทเหมยถู อิงค์ ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันด้านความงามของจีน ต่างก็ให้ความสนใจลงทุนในบิทคอยน์
อย่าตกเป็นเหยื่อโบรกเกอร์ Forex เถื่อน! เพราะโบรกเกอร์ Forex เถื่อนชอบโกงเงินนักลงทุน คุณต้องดาวน์โหลด WikiFX เพื่อตรวจสอบว่าโบรกเกอร์ Forex ใดควรเทรดด้วย ไม่งั้นจะเสียใจทีหลัง ดาวน์โหลดฟรี!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
บทความนี้นำเสนอเรื่องราวของ แบร์รี ซิลเบิร์ต (Barry Silbert) หนึ่งในผู้บุกเบิกและทรงอิทธิพลที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี ผู้มองเห็นศักยภาพของบิตคอยน์ตั้งแต่ปี 2012 และต่อมาได้ก่อตั้ง Digital Currency Group (DCG) ในปี 2015 เพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงของระบบการเงินโลกด้วยเทคโนโลยีบล็อกเชน DCG กลายเป็นผู้เล่นหลักที่มีบทบาททั้งด้านการลงทุนและโครงสร้างพื้นฐานของคริปโต โดยมีพอร์ตลงทุนในบริษัทชั้นนำกว่า 200 แห่ง และเป็นเจ้าของ Grayscale Investments, CoinDesk และ Genesis ซึ่งล้วนมีอิทธิพลต่อการยอมรับสินทรัพย์ดิจิทัลในภาคการเงินแบบดั้งเดิม บทความชี้ให้เห็นถึงกลยุทธ์ วิสัยทัศน์ และความสำเร็จของ Silbert ในการนำคริปโตเข้าสู่ระบบการเงินโลก โดยเริ่มจากเงินทุนเพียง 25 ล้านดอลลาร์ และเติบโตเป็นผู้บริหารสินทรัพย์มูลค่ากว่า 50,000 ล้านดอลลาร์ภายในไม่ถึงทศวรรษ
Meme Coins คือเหรียญดิจิทัลที่เริ่มจากเรื่องตลกในอินเทอร์เน็ต แต่กลับสร้างความเปลี่ยนแปลงเขย่าวงการการเงินโลกได้จริง ด้วยพลังของกระแส โซเชียลมีเดีย และความหวังของนักเก็งกำไรรายย่อย แม้บางคนจะกลายเป็นเศรษฐี แต่ก็มีอีกมากที่ขาดทุนยับแบบไม่ทันตั้งตัว เหรียญมีมจึงเป็นทั้งโอกาสและกับดัก ที่นักลงทุนต้องรู้ทันก่อนจะโดดเข้าไปในเกมสุดผันผวนนี้ อยากให้แปลงเนื้อหานี้เป็นโพสต์แบบให้ความรู้แบบกระชับ หรือแนววิดีโอสคริปต์สำหรับคอนเทนต์ TikTok/YouTube Shorts ดี?
ไนซ์ CNX เปิดใจ สูญเงิน 5 ล้านจากคริปโต เพราะ "โลภ" และ "ไม่ยอมตัดขาดทุน" เขาเคยหลงระเริงกับความสำเร็จรวดเร็ว จนพังหมดตัวในพริบตา วันนี้ไนซ์เตือนคนรุ่นใหม่ "อย่ารีบรวย" และ "อย่าโกงตัวเองด้วยความโลภ" การลงทุนต้องมีสติ ศึกษาลึก และรับผิดชอบการตัดสินใจด้วยตัวเอง
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ยกเลิกข้อกำหนดให้ธนาคารต้องแจ้งล่วงหน้าเมื่อต้องการทำธุรกิจเกี่ยวกับคริปโต สะท้อนท่าทีที่ “เปิดกว้าง” มากขึ้นต่อสินทรัพย์ดิจิทัล แม้ยังมีกฎเข้มจากปี 2023 ที่ใช้ควบคุมอยู่เบื้องหลัง นักวิเคราะห์มองว่านี่อาจเป็นสัญญาณของการปรับตัวเพื่อรองรับโลกการเงินยุคใหม่ แต่ก็ยังไม่ใช่ “ไฟเขียวเต็มรูปแบบ” แก่วงการคริปโต.