简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เรื่องราวของ 2 สหาย ไคล์ เดวีส์ (Kyle Davies) และซู จู (Su Zhu) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถือครองคริปโตเคอร์เรนซี่รายใหญ่ที่สุดของโลกที่มีพอร์ตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จากแต่ก่อนที่พวกเขามีเพียงบริษัทเล็กๆ บนโต๊ะในครัว
ตอนนี้สิ่งได้รับความสนใจมากที่สุดในกลุ่มวัยรุ่นคงหนีไม่พ้น ‘คริปโตเคอเรนซี่’ ซึ่งนักลงทุนแต่คนก็ต่างศึกษาหาข้อมูลเพื่อใช้ในการเทรดคริปโตสร้างกำไรให้กับตนเอง แต่นอกเหนือจากข้อมูลที่พวกเขากำลังมองหานั้นก็คือแนวคิดดีๆ เพื่อผลักดันให้สามารถสู้ต่อไปได้ และเรื่องราวของ 2 สหาย ไคล์ เดวีส์ (Kyle Davies) และซู จู (Su Zhu) ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ที่ถือครองคริปโตเคอร์เรนซี่รายใหญ่ที่สุดของโลกที่มีพอร์ตมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์ จากแต่ก่อนที่พวกเขามีเพียงบริษัทเล็กๆ บนโต๊ะในครัวของอพาร์ตเมนต์ของพวกเขาเท่านั้น ก็ถือว่าเป็นเรื่องราวที่น่าสนใจมากๆ
เมื่อไม่นานมานี้ Bloomberg รายงานว่า ผลงานของพวกเขาได้รับความสนใจในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาเนื่องจากความกังวลด้านสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับการขุดคริปโตในจีนและทวีตของอีลอน มัสก์ส่งผลให้ราคาของคริปโตผันผวนอย่างหนักแต่สำหรับเดวีส์ซึ่งนักลงทุนรายแรกๆ ในตลาดคริปโตและเป็นผู้สนับสนุนตัวย ‘Blockchain’ ความผันผวนล่าสุดเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อย ซึ่งอาจทำให้นักลงทุนมือใหม่กลัวได้ แต่ไม่ใช่สำหรับคนที่มีประสบการณ์ผ่านช่วงเวลาที่ผันผวนมากกว่า “Bitcoin ลดลง 30% จากจุดสูงสุด แต่ก็ไม่ได้ลดลงมากนัก ผมไม่เห็นว่ามันน่ากลัวขนาดนั้นเลย”
จุดเริ่มต้นของ 2 สหายนี้คือ เดวีส์และจูเรียนมัธยมปลายด้วยกัน จากนั้นเรียนที่มหาวิทยาลัยโคลัมเบียในนิวยอร์กก่อนจะร่วมงานกับ Credit Suisse ในฐานะผู้ค้าอนุพันธ์ในโตเกียว หลังจากสามปีที่ธนาคารสวิสพวกเขาเลิกและเปิดตัว Three Arrows Capital เพื่อเริ่มซื้อขายสกุลเงินดั้งเดิมในตลาดเกิดใหม่ “มันเป็นตลาดที่ไม่มีประสิทธิภาพมากและนั่นคือจุดเริ่มต้นของเรา” เดวีส์กล่าว
ภายในสามปีพวกเขาเปลี่ยนจากการทำงานในอพาร์ทเมนต์ในซานฟรานซิสโกมาจ้างคนประมาณ 35 คนและซื้อขาย 5% ถึง 10% ของปริมาณสกุลเงินของตลาดเกิดใหม่ในท้องถิ่นทั้งหมด พวกเขากระจายไปสู่ตัวเลือกหุ้นและสกุลเงินดิจิทัล เดวีส์บอกว่าเพราะบริษัทที่ใหญ่กว่าและดีกว่าเข้ามาซื้อขายเงินตราต่างประเทศในตลาดเกิดใหม่ และบริษัทพวกนั้นยังทำผลงานได้ดีกว่า โดยภายในปี 2018 บริษัท Three Arrows จึงหันมาให้ความสำคัญกับคริปโตโดยเฉพาะ
ต่อมาบริษัทในสิงคโปร์ของพวกเขามีกองทุน DeFiance Capital เป็นการลงทุนในการเงินแบบกระจายอำนาจโดยเดิมพันว่าธุรกิจเหล่านี้จะ “ครอบงำทุนแบบเดิมในทศวรรษหน้า” การลงทุนของบริษัทได้แก่ InsurAce ซึ่งให้บริการประกันภัยและ CDEX ที่เป็นแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัล
โดยที่ผ่านมาเดวีส์และจูไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สินของพวกเขาและยังแนะนำผ่านโซเชียลมีเดียด้วยว่ามหาเศรษฐีคริปโตคนอื่นๆ ก็ควรทำเช่นเดียวกัน อย่างไรก็ตามจากเอกสารในเดือนมกราคมเปิดเผยข้อมูลของบริษัท Three Arrows ของเขาทั้งสอง พบว่าบริษัทนี้มีสัดส่วนการถือหุ้น 5.6% ใน Grayscale Bitcoin Trust ซึ่งเป็นกองทุนมูลค่า 22,000 ล้านดอลลาร์ที่ลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลที่ตั้งขึ้นโดยแบร์รี่ ซิลเบิร์ท (Barry Silbert)
ทั้งนี้สัดส่วนการถือหุ้น Grayscale ทำให้ Three Arrows เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดและมีมูลค่ามากถึง 2,100 ล้านดอลลาร์ในเดือนเมษายน หุ้นของกองทรัสต์ร่วงลงมากกว่า 40% หลังจากการประกาศของมัสก์ในเดือนนี้ว่า Tesla จะระงับการยอมรับสกุลเงินดิจิทัลสำหรับการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจาก “การใช้เชื้อเพลิงฟอสซิลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในการขุด Bitcoin” และยังมีการประกาศการควบคุมด้านกฎระเบียบจากจีน
แม้จะมีทวีตของมัสก์เผยให้เห็นถึงปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมจากการขุด Bitcoin แต่เดวีส์กล่าวว่าเขาไม่เชื่อว่าความกังวลเหล่านั้นจะมีผลกับการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลโดยรวม
“มีสกุลเงินดิจิทัลจำนวนมากที่ใช้ระบบ proof-of-stake ได้ซึ่งใช้พลังงานน้อยมากหากมีการใช้ไฟฟ้า นั่นคือทิศทางที่คริปโตจำนวนมากมุ่งไป” เดวีส์กล่าวพร้อมเผยว่าปัจจุบัน Ethereum ถือเป็นคริปโตที่บริษัทถือครองมากที่สุด
ก่อนจะกล่าวทิ้งท้ายกับ Bloomberg ว่า “เราไม่ได้ติดอยู่ Ethereum มานานตั้งแต่แรก อันที่จริงเราก็ขาดช่วงไปเช่นกัน วิธีใดเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการเอาชนะ Bitcoin ในตอนนี้? มีเพียงการเป็นเจ้าของ Ethereum เป้าหมายสูงสุดของการลงทุนของผมคือการมีประสิทธิภาพสูงกว่า Bitcoin”
หากคุณไม่อยากพลาดเรื่องราวดีๆ พร้อมแฝงแนวคิดมากมายที่สามารถนำไปใช้ในการวางแผนการลงทุนคริปโตของคุณในอนาคตได้ ลองนี่ “WikiBit” แอปนำเสนอข่าวสารวงการคริปโต และพร้อมให้บริการตรวจสอบ Exchange ทั่วโลก รวบรวมข้อมูล Shitcoin และโครงการเถื่อน ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้ ฟรี!
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : posttoday
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
หนัง “ฝันร้าย 84 ตารางเมตร” สะท้อนโลกคริปโตได้อย่างน่าทึ่ง—จากความฝันสู่กับดักของระบบที่ไม่แฟร์ บทเรียนสำคัญคืออย่าหลงเชื่อทางลัด อย่าเป็นแค่ผู้เล่นที่ไม่รู้กติกา หากอยากรอดในเกม ต้องมีสติ รู้จริง และวางแผนก่อนลงทุน
รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้ประธานาธิบดีทรัมป์ กำลังพิจารณายกเว้นภาษีธุรกรรมคริปโตต่ำกว่า $600 เพื่อสนับสนุนการใช้งานในชีวิตประจำวัน พร้อมเดินหน้าผลักดันกฎหมายสนับสนุนอุตสาหกรรมคริปโต ขณะเดียวกันก็แสดงจุดยืนชัดเจนในการต่อต้านการพัฒนา CBDC (เงินดิจิทัลจากธนาคารกลาง)
ก.ล.ต. เตรียมเปิด Sandbox ให้นักท่องเที่ยวต่างชาติแลกคริปโทฯ เป็นเงินบาท และใช้จ่ายผ่าน e-Money ได้ในไทย โดยต้องผ่านผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตและอยู่ภายใต้การกำกับ. โครงการมุ่งส่งเสริมนวัตกรรมการเงิน ควบคู่กับการควบคุมความเสี่ยงและการตรวจสอบตัวตน (KYC).
ลงทุน Bitcoin วันละ 1,000 บาทแบบ DCA ต่อเนื่อง 8 ปี กลายเป็นเงินกว่า 32 ล้านบาทจากเงินต้นแค่ 2.8 ล้าน กลยุทธ์นี้ช่วยลดความเสี่ยงจากความผันผวน และเน้นวินัยมากกว่า timing ตลาด เป็นตัวอย่างว่าการลงทุนเล็ก ๆ แต่สม่ำเสมอ อาจเปลี่ยนชีวิตได้
Vantage
FXTM
KVB
Saxo
OANDA
Exness
Vantage
FXTM
KVB
Saxo
OANDA
Exness
Vantage
FXTM
KVB
Saxo
OANDA
Exness
Vantage
FXTM
KVB
Saxo
OANDA
Exness