简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:เงินเฟ้อคืออะไร ? ส่งผลกระทบกับเรายังไงบ้าง !
เงินเฟ้อมีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของทุกคน ดังนั้นเราจึงควรเข้าใจว่าเงินเฟ้อเกี่ยวข้องยังไงกับการใช้ชีวิตของเราบ้าง
ภาวะเงินเฟ้อ หมายถึง ภาวะที่ราคาสินค้าและบริการเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง มีผลทำให้มูลค่าของเงินลดลง ซึ่งหากเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นมากจะกระทบต่อฐานะและความเป็นอยู่ของประชาชน จึงจำเป็นต้องมีหน่วยงานที่มีหน้าที่ควบคุมดูแลเงินเฟ้อ คือ กระทรวงพาณิชย์ และธนาคารแห่งประเทศไทย โดยหน่วยงานเหล่านี้จะดูแลราคาสินค้าและบริการ หรือตรึงราคาไว้ และกำหนดนโยบายการเงิน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อประชาชน, ระบบเศรษฐกิจ ไม่ให้ผันผวนจนเกินไป
สาเหตุการเกิดเงินเฟ้อแบ่งได้เป็น 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ1. Demand-Pull Inflation ประชาชนมีความต้องการซื้อสินค้าและบริการเพิ่มขึ้น ประกอบกับสินค้าและบริการในตลาดมีไม่เพียงพอ ทำให้ผู้ขายปรับราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น
2. Cost-Push Inflation ต้นทุนการผลิตที่เพิ่มขึ้น ทำให้ผู้ผลิตไม่สามารถแบกรับภาระต้นทุนที่สูงขึ้นได้ ทำให้ผู้ผลิตต้องปรับราคาสินค้าและบริการให้สูงขึ้นตาม
ผลกระทบจากเงินเฟ้อ
ผลต่อประชาชน
รายจ่ายหรือภาระค่าครองชีพสูงขึ้น ทำให้ประชาชนมีอำนาจซื้อน้อยลง มีความสามารถจับจ่ายซื้อสินค้าและบริการได้น้อยลง และอาจทำให้รายได้ที่มีหรือเงินที่หามาได้ไม่เพียงพอกับการครองชีพ
อัตราเงินเฟ้อยิ่งสูงจะส่งผลให้อัตราดอกเบี้ยที่หักเงินเฟ้อออก หรือที่เรียกว่า อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง จะมีค่าลดลงไป เนื่องจากดอกเบี้ยที่เราได้รับเอาไปใช้ซื้อของได้น้อยลง ยกตัวอย่าง กรณีที่อัตราดอกเบี้ยเงินฝากอยู่ที่ร้อยละ 1.5 ต่อปีแต่หากอัตราเงินเฟ้อหรือราคาเพิ่มขึ้นมาร้อยละ 1 อาจกล่าวได้ว่าอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงหรือผลตอบแทนสุทธิที่ได้รับจริงๆ อยู่ที่ร้อยละ 0.5 ต่อปี เท่านั้น แต่หากปีต่อไป อัตราดอกเบี้ยเงินฝากยังเท่าเดิม แต่อัตราเงินเฟ้อสูงขึ้นไปอยู่ที่ร้อยละ 2 อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงจะกลายเป็นร้อยละ - 0.5 ต่อปี ซึ่งถือว่ากำลังซื้อของผู้ฝากเงินลดลง การฝากเงินทำให้ได้รับผลตอบแทนจริงๆ ติดลบ ทำให้ผู้ฝากไม่อยากออมเงิน และอาจหันไปลงทุนในสินทรัพย์ประเภทอื่นที่ให้ผลตอบแทนสูงกว่า เช่น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์และหุ้น เป็นต้น ทำให้ต้องเผชิญกับความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย หากไม่มีความรู้เพียงพอในการบริหารจัดการ ก็อาจทำให้เกิดเป็นภาระหนี้สินได้
ผลต่อผู้ประกอบการ, นักธุรกิจ
เมื่อสินค้ามีราคาแพงขึ้น ยอดขายก็จะลดลง ในขณะเดียวกัน ต้นทุนการผลิตก็จะสูงขึ้น
ด้วย ส่งผลให้เจ้าของธุรกิจบางรายอาจตัดสินใจชะลอการผลิต ลดการลงทุนและการจ้างงาน ทำให้
คนตกงานมากขึ้น
ความสามารถในการแข่งขันของภาคธุรกิจในประเทศลดลง เนื่องจากราคาสินค้าส่งออก
ของเราจะสูงขึ้นเมื่อเทียบกับราคาสินค้าออกของประเทศอื่นๆ
ผลต่อประเทศ
ในภาวะที่ประชาชนซื้อของน้อยลง ธุรกิจไม่สามารถขายของได้ การลงทุนเพื่อผลิตสินค้าก็จะชะลอออกไป ทำให้การพัฒนาศักยภาพการผลิตของประเทศในระยะยาวอาจชะลอลงตามไปด้วย
ถ้าอัตราเงินเฟ้อสูงจนทำให้อัตราดอกเบี้ยที่แท้จริงติดลบนานๆ ประชาชนก็จะหันไป เก็งกำไรในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง สะสมปัญหาฟองสบู่ในสินทรัพย์ต่างๆ (asset price bubble) และความไม่สมดุลในภาคการเงินของประเทศได้เช่น หนี้ครัวเรือน
ถ้าเกิดเงินเฟ้ออ่อนๆ จะเป็นการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจ เพราะเมื่อคนขายเห็นว่าราคาสินค้าและบริการสูงขึ้น ทำให้มีแรงจูงใจที่จะผลิตสินค้าออกมาขาย ส่งผลให้มีการลงทุน และการจ้างงานเพิ่มขึ้น ประชาชนทั่วไปก็จะมีงานทำ รายได้ของประชาชนโดยรวมก็จะมีมากขึ้นทำให้เกิดการใช้จ่ายมากขึ้น ส่งผลดีต่อเศรษฐกิจให้เกิดขยายตัว แต่ถ้าเงินเฟ้อมากเกินไปจะส่งผลกระทบต่อทุกคน ซึ่งในปัจจุบันปัญหาเงินเฟ้อได้เพิ่มสูงขึ้นส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบ เราจึงจำเป็นต้องบริหารและวางแผนการเงินให้ดี
ขอขอบคุณข้อมูลจาก : ธนาคารแห่งประเทศไทย
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex อ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูลหมดไส้หมดพุง แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
FXTRADING.com
FXTM
IB
TMGM
IC Markets Global
FOREX.com
FXTRADING.com
FXTM
IB
TMGM
IC Markets Global
FOREX.com
FXTRADING.com
FXTM
IB
TMGM
IC Markets Global
FOREX.com
FXTRADING.com
FXTM
IB
TMGM
IC Markets Global
FOREX.com