简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:โดย Peter Nurse Investing.com - ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขายสูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากผลป
โดย Peter Nurse
Investing.com - ตลาดหุ้นยุโรปเปิดซื้อขายสูงขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี โดยได้แรงหนุนจากผลประกอบการรายไตรมาสที่เป็นบวกอย่างมากและคำสั่งซื้อโรงงานในเยอรมนีที่ออกมาดีเกินคาดก่อนการประชุมกำหนดนโยบายครั้งล่าสุดของธนาคารกลางอังกฤษ
ในเวลา 04.00 น. ET (08.00 GMT) DAX ในเยอรมนีซื้อขายสูงขึ้น 0.9% CAC 40 ในฝรั่งเศสเพิ่มขึ้น 0.5% ในขณะที่ FTSE 100 สหราชอาณาจักรซื้อขายในกรอบแคบ
หุ้นยุโรปทำกำไรเพิ่มจากเซสชั่นก่อนหน้า โดยได้แรงหนุนจาก ยอดคำสั่งซื้อสินค้าจากโรงงานของเยอรมนี ที่ทำผลงานได้ดีเกินคาดในเดือนมิถุนายน โดยลดลงเพียง 0.4% น้อยกว่าคาดการณ์ไว้ที่ 0.8% ท่ามกลางวิกฤตพลังงานที่ตึงเครียดมากขึ้น
นอกจากนี้ รายงานผลประกอบการณ์รายไตรมาสที่ทำได้ดีกว่าที่คาดก็ทำช่วยทำให้บรรยากาศในตลาดดีขึ้น
หุ้น Next (LON:NXT) เพิ่มขึ้น 2.6% หลังจากที่ผู้ค้าปลีกเสื้อผ้าในสหราชอาณาจักรได้เพิ่มแนวโน้มกำไรในปีนี้ เนื่องจากยอดค้าปลีกฟื้นตัวจากช่วงโควิด19 ระบาด ที่ทำให้ยอดขายตกต่ำ
หุ้น Credit Agricole (OTC:CRARY) เพิ่มขึ้น 3.6% หลังจากที่ผู้ให้กู้ชาวฝรั่งเศสยังคงมีผลการดำเนินการที่แข็งแกร่งสำหรับธนาคารในยุโรป โดยประกาศผลกำไรรายไตรมาสดีกว่าที่คาดท่ามกลางกิจกรรมที่บันทึกไว้ในแผนการลงทุน
หุ้นของ Lufthansa (ETR:LHAG) เพิ่มขึ้น 5.8% หลังจากที่สายการบินเยอรมันกลับมาทำกำไรจากการดำเนินงานในไตรมาสที่สอง โดยได้รับแรงหนุนจากความต้องการเที่ยวบินขนส่งสินค้าทางอากาศที่ขณะนี้มีความต้องการบริการนี้อย่างมาก ถึงกระนั้น สายการบินเตือนว่าจะให้บริการได้เพียง 80% ของความจุผู้โดยสารในช่วง “ก่อนวิกฤต” ในไตรมาสที่สาม ท่ามกลางการขาดแคลนพนักงานที่สนามบินและสายการบิน
หุ้น Adidas (OTC:ADDYY) ขึ้น 1.5% หลังจากบริษัทกีฬาสัญชาติเยอรมันกล่าวว่ายอดขายที่เป็นกลางของสกุลเงินเพิ่มขึ้น 4% ในไตรมาสนี้แม้ว่ากำไรจากการดำเนินงานจะได้รับผลกระทบอย่างมาก ซึ่งส่วนใหญ่มาจากการระงับธุรกิจในรัสเซีย
ในทางกลับกัน หุ้นของโรลส์-รอยซ์ (OTC:RYCEY) ร่วงลง 4.5% หลังจากที่ผู้ผลิตเครื่องยนต์อากาศยานเตือนถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ใกล้จะเกิดขึ้น แม้จะรายงานว่ากระแสเงินสดครึ่งปีแรกดีขึ้นกว่าพันล้านปอนด์
อย่างไรก็ตาม ธนาคารกลางอังกฤษ คาดว่าจะขึ้นอัตราดอกเบี้ยมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 1995 ในวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา เนื่องจากธนาคารกลางพยายามที่จะจัดการกับเงินเฟ้อที่แตะ 9.4% สูงสุดรอบใหม่ 40 ปีในเดือนมิถุนายน
BoE ได้เพิ่มต้นทุนการกู้ยืมมาแล้วห้าครั้งตั้งแต่เดือนธันวาคม และคาดว่าจะเพิ่มอัตราดอกเบี้ยอีกครึ่งเปอร์เซ็นต์เป็น 1.75% ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปลายปี 2008 ในช่วงเริ่มต้นของวิกฤตการเงินโลก
ราคาน้ำมันทรงตัวในวันพฤหัสบดีหลังจากขาดทุนอย่างหนักจากเซสชั่นก่อนหน้า โดยมีข้อมูลบ่งชี้ว่าอุปสงค์ของสหรัฐฯ ที่อ่อนตัวลงรวมถึงผลผลิตที่เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากผู้ผลิต OPEC+
เกณฑ์ชี้วัดทั้งสองลดลงประมาณ 4% สู่ระดับที่อ่อนแอที่สุดนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ในวันพุธ หลังจากรายงานข้อมูลของ EIA ระบุว่าน้ำมันดิบคงคลังเพิ่มขึ้น 4.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว และน้ำมันเบนซินคงคลังเพิ่มขึ้น 200,000 บาร์เรล
การเพิ่มขึ้นของเชื้อเพลิงคงคลังเหล่านี้อาจชี้ให้เห็นถึงอุปสงค์ที่ลดลงของผู้บริโภครายใหญ่ที่สุดของโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในฤดูร้อนที่มีการใช้รถมากที่สุด
นอกจากนี้ องค์การประเทศผู้ส่งออกน้ำมันและพันธมิตร หรือ OPEC+ ตกลงที่จะเพิ่มการผลิต 100,000 บาร์เรลต่อวันในเดือนกันยายน
ภายในเวลา 04.00 น. ET สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบ WTI ซื้อขายเพิ่มขึ้น 0.2% เป็น 90.80 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลในขณะที่สัญญา สัญญาซื้อขายล่วงหน้าน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 0.1% เป็น 96.72 ดอลลาร์
นอกจากนี้ สัญญาซื้อขายล่วงหน้าทองคำ เพิ่มขึ้น 0.7% เป็น 1,789.35 ดอลลาร์ต่อออนซ์ในขณะที่ EUR/USD ขยับขึ้น 0.1% เป็น 1.0177
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
XM
IC Markets Global
EC Markets
OANDA
Vantage
Exness
XM
IC Markets Global
EC Markets
OANDA
Vantage
Exness
XM
IC Markets Global
EC Markets
OANDA
Vantage
Exness
XM
IC Markets Global
EC Markets
OANDA
Vantage
Exness