简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ในวงการเทรด Forex กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Divergence เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงกันบ่อยขึ้น เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญซึ่งสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาได้ล่วงหน้า Divergence ใน Forex นั้นมีหลายประเภท
ในวงการเทรด Forex กลยุทธ์การซื้อขายแบบ Divergence เป็นหนึ่งในหัวข้อที่ได้รับความนิยมและกล่าวถึงกันบ่อยขึ้น เนื่องจากเป็นตัวบ่งชี้ที่สำคัญซึ่งสามารถคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงของราคาได้ล่วงหน้า Divergence ใน Forex นั้นมีหลายประเภท และในวันนี้ แอดเหยี่ยวได้รวบรวมมาให้ในบทความนี้แล้ว ตามแอดเหยี่ยวมาเลย
ประเภทของ Forex Divergence
1.Bullish Divergence คืออะไร?
Bullish Divergence เป็นสัญญาณทางเทคนิคที่ใช้เพื่อระบุโอกาสที่แนวโน้มราคาจะเปลี่ยนทิศทางจากขาลงเป็นขาขึ้น โดยเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่ต่ำลง แต่ในขณะเดียวกัน ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคกลับไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ตาม โดยตัวบ่งชี้แสดงถึงการสูญเสียโมเมนตัมของการเคลื่อนไหวขาลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าการลดลงของราคากำลังอ่อนแรงและอาจเกิดการปรับตัวขึ้นในไม่ช้า
ขอบคุณรูปจาก Admirals
ในตัวอย่างข้างต้น วัฏจักรราคาได้ทำจุดต่ำสุดใหม่ แต่ในขณะเดียวกัน ตัว Divergence Indicator อย่างเช่น Relative Strength Index (RSI, 6) กลับไม่ทำจุดต่ำสุดใหม่ตามราคา ซึ่งบ่งชี้ว่าราคาลงไม่ได้มีโมเมนตัมแข็งแกร่งมากนัก ผู้ค้าจะมองว่าสิ่งนี้เป็นสัญญาณว่าฝ่ายผู้ขายที่กดตลาดลงกำลังอ่อนแรง ส่งผลให้มีโอกาสที่ฝ่ายผู้ซื้อจะเข้ามาควบคุมทิศทางของตลาด
ปกติแล้ว ผู้ค้าจะใช้การวิเคราะห์ Bullish Divergence ร่วมกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ หรือการวิเคราะห์รูปแบบราคา (Price Action) เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจซื้อขาย
2.Bearish Divergence คืออะไร?
Bearish Divergence เป็นสัญญาณที่ใช้เพื่อคาดการณ์การเปลี่ยนแปลงทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง โดยเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดใหม่ที่สูงขึ้น แต่ตัว Divergence Indicator เช่น Relative Strength Index (RSI, 6) กลับทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง สะท้อนว่าราคาขึ้นนั้นอ่อนแรงและสูญเสียโมเมนตัม การไม่ติดตามการเคลื่อนตัวขึ้นของราคานี้เป็นสัญญาณว่าตลาดอาจกำลังเปลี่ยนทิศทางจากขาขึ้นเป็นขาลง
ขอบคุณรูปจาก Admirals
ในตัวอย่างข้างต้นวัฏจักรของราคาได้ทำสูงขึ้นในขณะเดียวกันตัว Divergence Indicator ซึ่งก็คือ Relative Strength
ในตัวอย่างนี้ เมื่อราคาทำจุดสูงขึ้น แต่ RSI ไม่ทำตาม ผู้ค้าจะมองว่าสัญญาณนี้บ่งบอกถึงความอ่อนแอของผู้ซื้อที่ขับเคลื่อนตลาด ซึ่งอาจเปิดโอกาสให้ผู้ขายเข้าควบคุมทิศทางของตลาด
ปกติแล้ว ผู้ค้าจะวิเคราะห์ Bearish Divergence ควบคู่ไปกับเครื่องมือชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ เพื่อเพิ่มความแม่นยำในการตัดสินใจ
เริ่มเทรดโดย “ไร้ความเสี่ยง” ด้วยบัญชีเงินจำลอง
การเทรดแบบ Forex Divergence เป็นที่นิยมแม้กระทั่งในหมู่นักเทรดมืออาชีพ ซึ่งมักจะฝึกฝนผ่าน บัญชีเงินจำลอง (Demo Account) ซึ่งเป็นระบบที่จำลองสภาพแวดล้อมการเทรดแบบตลาดจริง โดยมีคุณสมบัติ:
3.Hidden Bullish Divergence คืออะไร?
Hidden Bullish Divergence เป็นรูปแบบ Divergence ที่ใช้ระบุ ความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้น โดยมีลักษณะการทำงานที่แตกต่างเล็กน้อยจาก Bullish Divergence ปกติ ในกรณีของ Hidden Bullish Divergence ราคาสร้างจุดต่ำสุดใหม่ที่สูงกว่าจุดต่ำสุดก่อนหน้า (บ่งบอกถึงแนวโน้มขาขึ้นที่ยังคงดำเนินอยู่) แต่ตัวบ่งชี้ทางเทคนิคกลับลดระดับต่ำลง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะ “ขายมากเกินไป” (Oversold)
สัญญาณนี้บ่งชี้ว่าราคามีแนวโน้มที่จะปรับตัวขึ้นต่อไป เนื่องจากมีแรงซื้อใหม่เข้ามาในตลาด โดยเฉพาะจากผู้ค้าที่ยึดกลยุทธ์การ “ซื้อต่ำ ขายสูง” ในช่วงแนวโน้มขาขึ้น Hidden Bullish Divergence จึงมักถูกใช้เพื่อยืนยันว่าการปรับฐานชั่วคราวในแนวโน้มขาขึ้นอาจสิ้นสุด และแนวโน้มขาขึ้นเดิมจะยังคงดำเนินต่อไป
ในตัวอย่างข้างต้น วัฏจักรราคาได้ทำจุดต่ำสุดที่สูงขึ้น ในขณะที่ Divergence Indicator กลับเคลื่อนตัวลงไปที่ระดับต่ำกว่าเดิม ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอาจอยู่ในภาวะ ขายมากเกินไป (Oversold) ผู้ค้าจะมองว่านี่เป็นสัญญาณว่ามีผู้ขายเหลืออยู่น้อยในตลาด ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ซื้อสามารถเข้ามาผลักดันราคาขึ้นได้
Hidden Bullish Divergence จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ค้าตามเทรนด์ (Trend Traders) และผู้ที่ใช้กลยุทธ์แบบ Scalping ในการเทรด Forex เนื่องจากช่วยยืนยันความต่อเนื่องของแนวโน้มขาขึ้นและมักใช้เพื่อจับโอกาสในการเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวชั่วคราวในแนวโน้มขาขึ้น
4.Hidden Bearish Divergence คืออะไร?
Hidden Bearish Divergence เป็นรูปแบบ Divergence ที่บ่งบอกถึง ความต่อเนื่องของแนวโน้มขาลง โดยเกิดขึ้นเมื่อราคาสร้างจุดสูงสุดที่ต่ำลง (สัญญาณขาลง) แต่ตัว Indicator กลับทำจุดสูงสุดใหม่ที่สูงกว่าเดิม ซึ่งแสดงถึงสภาวะตลาดที่ ซื้อมากเกินไป (Overbought)
สัญญาณนี้บอกว่าแม้ราคาจะต่ำลง แต่ตัวบ่งชี้กลับบ่งบอกว่าตลาดอาจจะอยู่ในช่วงที่มีแรงซื้อเข้ามามากเกินไป ส่งผลให้มีแนวโน้มที่ราคาจะปรับตัวลงต่อไป ผู้ค้าจะใช้สัญญาณนี้เป็นโอกาสในการขาย โดยเฉพาะในกลยุทธ์ตามแนวโน้มที่เน้น “ขายสูง ซื้อต่ำ” ในช่วงขาลง
ขอบคุณรูปจาก Admirals
ในตัวอย่างข้างต้น วัฏจักรราคาได้ทำจุดสูงสุดที่ต่ำลง ในขณะที่ Divergence Indicator กลับขยับสูงขึ้น ซึ่งบ่งชี้ว่าตลาดอยู่ในภาวะ ซื้อมากเกินไป (Overbought) ผู้ค้าจะมองว่านี่เป็นสัญญาณว่ามีผู้ซื้อเหลืออยู่น้อยในตลาด ซึ่งเปิดโอกาสให้ผู้ขายเข้ามาควบคุมและขับเคลื่อนราคาลงต่อไป
Hidden Bearish Divergence จึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ค้าที่เทรดตามแนวโน้ม (Trend Traders) รวมถึงผู้ที่ใช้กลยุทธ์ Scalping เนื่องจากช่วยยืนยันการต่อเนื่องของแนวโน้มขาลง และเป็นโอกาสในการขายเมื่อราคาขยับขึ้นในแนวโน้มขาลง
ขอบคุณข้อมูลจาก Admirals
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
แม้ว่า MBTI จะไม่ได้เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จในการลงทุนโดยตรง แต่การเข้าใจบุคลิกภาพของตนเองสามารถช่วยให้เลือกกลยุทธ์และรูปแบบการลงทุนที่เหมาะสมกับนิสัยและความต้องการของเราได้
ทั้งเงินเฟ้อและเงินฝืดต่างก็มีผลกระทบที่แตกต่างกันในมุมมองนักเทรด แต่สิ่งสำคัญคือการเข้าใจสภาพตลาดและปรับพอร์ตการลงทุนให้เหมาะสม ถ้าเงินเฟ้อมาสูง เราต้องมองหาสินทรัพย์ที่รักษามูลค่าได้ แต่ถ้าเงินฝืดมาแรง การถือเงินสดหรือสินทรัพย์ปลอดภัยอาจเป็นทางรอด หมั่นติดตามข่าวเศรษฐกิจและปรับกลยุทธ์ให้ทัน เกมเศรษฐกิจแบบนี้ ถ้ารู้ทัน เราก็ชนะ!
บทวิเคราะห์อทองคำ
หลังทรัมป์รับตำแหน่งตลาดการเงินเป็นอย่างไรบ้าง บล.เอเซียพลัส ชี้ความกังวลที่ดูผ่อนคลายมากขึ้น หนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยง มองถ้าสหรัฐอเมริกาไม่ดุดัน ตลาดหุ้นไทยจะค่อย ๆ ดีขึ้น