简体中文
繁體中文
English
Pусский
日本語
ภาษาไทย
Tiếng Việt
Bahasa Indonesia
Español
हिन्दी
Filippiiniläinen
Français
Deutsch
Português
Türkçe
한국어
العربية
บทคัดย่อ:ESG คืออะไร? การลงทุนแบบยั่งยืน หรือ ESG คือการตัดสินใจลงทุนที่วิเคราะห์ปัจจัย 3 ด้านสำคัญ ได้แก่: - E (Environmental): การบริหารจัดการด้านสิ่งแวดล้อม เช่น พลังงานสะอาด การจัดการขยะ - S (Social): การดูแลพนักงานและชุมชน เช่น ความเท่าเทียมในที่ทำงาน - G (Governance): การกำกับดูแลกิจการที่ดี เช่น ความโปร่งใสในการดำเนินธุรกิจ
แอดเหยี่ยวมาอีกครั้งพร้อมกับเทรนด์ที่กำลังมาแรงในวงการการเงิน การลงทุนแบบยั่งยืน หรือที่หลายคนรู้จักในชื่อ ESG (Environmental, Social, Governance)
คุณเคยคิดไหมว่า การลงทุนของเรานอกจากจะสร้างผลตอบแทนแล้ว ยังสามารถช่วยเปลี่ยนแปลงโลกใบนี้ให้ดีขึ้นได้? นี่แหละคือแก่นแท้ของการลงทุนแบบยั่งยืน ที่ไม่ใช่แค่การมองหาผลกำไรในระยะสั้น แต่ยังคำนึงถึงผลกระทบระยะยาวทั้งต่อสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล
วันนี้แอดจะพาทุกคนมาทำความเข้าใจว่าแนวคิดนี้คืออะไร ทำไมถึงได้รับความนิยมจากนักลงทุนทั่วโลก รวมถึงรูปแบบการลงทุนที่คุณสามารถนำไปใช้ได้จริง พร้อมแล้วไปดูกันเลยครับ!
ESG คืออะไร?
การลงทุนแบบยั่งยืน หรือ ESG คือการตัดสินใจลงทุนที่วิเคราะห์ปัจจัย 3 ด้านสำคัญ ได้แก่:
การคำนึงถึงปัจจัยเหล่านี้ทำให้นักลงทุนสามารถลดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้น และเพิ่มโอกาสในการสร้างผลตอบแทนที่มั่นคงในระยะยาว
5 รูปแบบการลงทุนอย่างยั่งยืน
การลงทุนแบบ ESG มีหลายวิธี ซึ่งเหมาะกับนักลงทุนที่มีเป้าหมายและความเชื่อที่แตกต่างกัน:
1.Negative/Exclusionary Screening
หลีกเลี่ยงการลงทุนในธุรกิจที่ส่งผลกระทบเชิงลบต่อสังคม เช่น ธุรกิจค้าอาวุธ ยาสูบ หรืออุตสาหกรรมที่ก่อมลพิษหนัก
2.ESG Integration
นำปัจจัย ESG มาวิเคราะห์ร่วมกับผลประกอบการทางการเงิน เพื่อให้การลงทุนตอบโจทย์ทั้งความยั่งยืนและผลกำไร
3.Best-in-Class Screening
คัดเลือกเฉพาะธุรกิจที่มีผลการดำเนินงานด้าน ESG ยอดเยี่ยม เช่น บริษัทที่ติดอันดับดัชนีหุ้นยั่งยืน
4.Thematic Investment
ลงทุนในธุรกิจที่สนับสนุนธีมความยั่งยืน เช่น พลังงานหมุนเวียน รถยนต์ไฟฟ้า หรือเทคโนโลยีการเกษตร
5.Impact Investing
ลงทุนในธุรกิจที่มุ่งแก้ปัญหาสังคมหรือสิ่งแวดล้อม เช่น ธุรกิจ SME ที่ช่วยสร้างงานในชนบท หรือ Startup ที่พัฒนาเทคโนโลยีลดการใช้ทรัพยากร
6.ทำไมการลงทุนแบบยั่งยืนถึงได้รับความนิยม?
ปัจจัย ESG ไม่ได้เป็นแค่กระแส แต่มันมีบทบาทสำคัญต่อผลตอบแทนในระยะยาวและช่วยลดความเสี่ยงในพอร์ตลงทุน
7.ผลตอบแทนระยะยาวที่มั่นคง
บริษัทที่ใส่ใจ ESG มักมีการจัดการที่ดี ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและผลประกอบการที่ยั่งยืน
8.โอกาสเติบโตในธุรกิจแห่งอนาคต
ธุรกิจที่ตอบโจทย์เทรนด์ความยั่งยืน เช่น พลังงานสะอาด หรือรถยนต์ไฟฟ้า มีแนวโน้มเติบโตในอนาคต
9.ลดความเสี่ยงจากปัจจัยภายนอก
ธุรกิจที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมและสังคมมักมีความเสี่ยงต่อกฎหมายหรือเหตุการณ์ไม่คาดคิดน้อยกว่า
10.ความสุขใจที่ได้ช่วยโลก
การลงทุนใน ESG ไม่ได้สร้างแค่ผลตอบแทน แต่ยังช่วยสร้างโลกที่ดีขึ้น
บทสรุปการลงทุนอย่างยั่งยืนไม่ได้เป็นแค่แนวคิดที่ดี แต่เป็นทางเลือกที่ตอบโจทย์ทั้งการสร้างกำไรและการทำประโยชน์ต่อโลก หากคุณกำลังมองหาการลงทุนที่ทั้งมั่นคงและมีความหมาย การลงทุนแบบ ESG อาจเป็นคำตอบที่คุณกำลังตามหา
แอดเหยี่ยวเชื่อว่าโลกการลงทุนยุคใหม่ไม่ได้วัดกันที่ตัวเลขเพียงอย่างเดียว แต่คือการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืน ใครพร้อมจะเริ่มต้น ลุยกันเลยครับ!
ขอบคุณข้อมูลทั้งหมดจาก ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
อ่านข่าวสาร Forex ทั่วโลกเพิ่มเติมคลิกเลย :https://www.wikifx.com/th/original.html?source=tso4
คุณสามารถตรวจสอบใบอนุญาตโบรกเกอร์ Forex และอ่านรีวิวข้อมูลต่าง ๆ ได้ง่าย ๆ ผ่านแอป WikiFX เพียงแค่ไปค้นหาชื่อก็เจอข้อมูล ใครที่อยากได้ความรู้ เทคนิค กลยุทธ์การเทรด หรือการวิเคราะห์แนวโน้มตลาด ก็สามารถเข้ามาอ่านได้ อีกทั้งยังมีบริการ EA VPS บนแอป WikiFX อีกด้วย แอปเดียวที่จบครบเรื่อง Forex ดาวน์โหลดฟรี โหลดเลยตอนนี้จะพลาดได้ไง!
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ:
มุมมองในบทความนี้แสดงถึงมุมมองส่วนตัวของผู้เขียนเท่านั้นและไม่ถือเป็นคำแนะนำในการลงทุน สำหรับแพลตฟอร์มนี้ไม่รับประกันความถูกต้องครบถ้วนและทันเวลาของข้อมูลบทความ และไม่รับผิดชอบต่อการสูญเสียใด ๆ ที่เกิดจากการใช้ข้อมูลในบทความ
ทฤษฎี "Greater Fool" หรือ “ทฤษฎีคนโง่ที่ใหญ่กว่า” อธิบายพฤติกรรมการลงทุนที่มุ่งหวังเพียงการขายต่อให้ผู้ที่ยอมจ่ายแพงกว่า โดยไม่สนใจมูลค่าที่แท้จริงของสินทรัพย์ ซึ่งแม้จะดูเหมือนทำกำไรได้ในระยะสั้น แต่สุดท้ายอาจทำให้นักลงทุนกลายเป็น "คนโง่คนสุดท้าย" ที่ต้องรับภาระขาดทุน ทฤษฎีนี้สะท้อนถึงความเสี่ยงของการลงทุนตามกระแส และชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของสติ การวิเคราะห์ และการรู้เท่าทันอารมณ์ของตัวเองในการลงทุนอย่างยั่งยืน.
การพักผ่อนคือสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักเทรด แม้ว่าเราจะสามารถเทรดได้ตลอด 24 ชั่วโมง แต่การพักผ่อนจะช่วยฟื้นฟูสมาธิ ลดความเครียดและความวิตกกังวล ส่งผลให้การตัดสินใจมีประสิทธิภาพมากขึ้น และช่วยรักษาความมั่นคงทางอารมณ์ เคล็ดลับ: - นอนหลับ 7-8 ชั่วโมงทุกคืน - หยุดพักเมื่อรู้สึกเครียดหรือเหนื่อย - หลีกเลี่ยงการเทรดในช่วงที่คุณไม่มีสมาธิ การพักผ่อนทำให้คุณสามารถเทรดได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน ดังนั้นอย่ามองข้ามความสำคัญของการพักผ่อนในชีวิตประจำวันครับ!
บทความนี้นำเสนอคำแนะนำสำหรับนักเทรด Forex ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนและสภาพคล่องลดลง ส่งผลให้การเทรดมีความเสี่ยงที่สูงขึ้น แอดเหยี่ยวแนะนำสัญญาณเตือน 3 ประการที่นักเทรดควรระมัดระวัง ได้แก่ ความผันผวนที่อาจสูงหรือต่ำเกินไป ข่าวเศรษฐกิจสำคัญที่อาจกระทบตลาด และความเสี่ยงจากการเทรดเกินตัว (Overtrading) พร้อมทั้งแนะนำวิธีการจัดการความเสี่ยง เช่น การลดขนาดการลงทุน การตั้ง Stop-Loss และ Take-Profit ให้ชัดเจน และการหยุดพักเมื่อรู้สึกเครียด เพื่อให้การเทรดในช่วงสงกรานต์เป็นไปอย่างปลอดภัยและประสบความสำเร็จ.
บทความนี้กล่าวถึงทางเลือกระหว่าง "เทรด" หรือ "เที่ยว" ของนักเทรดในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งแม้ตลาด Forex จะไม่หยุดตามวันหยุดไทย แต่การตัดสินใจว่าจะใช้ช่วงเวลานี้ในการเทรดต่อหรือพักผ่อนก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายและความพร้อมของแต่ละคน โดยแบ่งออกเป็นสองแนวทางหลักคือ การเทรดต่อเนื่องเพื่อจับโอกาสในตลาดที่เงียบ และการพักเพื่อฟื้นฟูสภาพจิตใจและวางแผนระยะยาว บทความเน้นว่าทั้งสองทางเลือกต่างมีข้อดีและข้อควรระวัง พร้อมชี้ให้เห็นว่าความสำเร็จของนักเทรดไม่ได้ขึ้นอยู่กับการอยู่หน้าจอตลอดเวลา แต่คือการรู้เท่าทันตัวเองและเลือกทำสิ่งที่สอดคล้องกับเป้าหมายในช่วงเวลานั้นอย่างแท้จริง
Pepperstone
FOREX.com
Markets.com
FXTM
HFM
EC Markets
Pepperstone
FOREX.com
Markets.com
FXTM
HFM
EC Markets
Pepperstone
FOREX.com
Markets.com
FXTM
HFM
EC Markets
Pepperstone
FOREX.com
Markets.com
FXTM
HFM
EC Markets